แชร์

กำจัด "หมัดแมว" ศัตรูตัวจิ๋วของเจ้าเหมียว

อัพเดทล่าสุด: 1 ส.ค. 2024

สวัสดีเพื่อนๆ ทาสแมวทุกท่าน วันนี้ Maru Cat Grooming มีเรื่องสำคัญมาฝากเกี่ยวกับปัญหาที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ หมัดแมว " ศัตรูตัวน้อยที่สร้างความรำคาญและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวสุดที่รักของเรา บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับหมัดแมว วิธีป้องกัน และการกำจัดอย่างมีประสิทธิภาพกัน

 

หมัดแมวคืออะไร?

หมัดแมวเป็นปรสิตขนาดเล็กที่มีความยาวประมาณ 1-3 มิลลิเมตร มีร่างกายแบนและมีสีแดงหรือน้ำตาล หมัดแมวสามารถกระโดดได้ไกลและรวดเร็ว ทำให้สามารถแพร่กระจายจากสัตว์หนึ่งไปยังอีกตัวได้อย่างง่ายดาย หมัดแมวมีวงจรชีวิตที่ประกอบไปด้วย 4 ระยะ ได้แก่ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ซึ่งหมัดตัวเต็มวัยเป็นระยะที่สามารถดูดเลือดจากสัตว์เลี้ยงได้

 

ผลเสียต่อสุขภาพและอาการที่เกิดจากหมัดแมว

หมัดแมวไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรำคาญ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของแมวได้หลายประการ อาทิเช่น :

  • อาการคันและระคายเคืองผิวหนัง : น้องแมวอาจจะเกาจนเกิดแผลหรือรอยแดงที่ผิวหนัง 
  • ภาวะผิวหนังอักเสบจากการแพ้น้ำลายหมัด (Flea Allergy Dermatitis) หรือ "โรคแพ้หมัด"
  • ภาวะโลหิตจางจากการสูญเสียเลือด
  • การติดพยาธิตัวตืด (หมัดเป็นพาหะของพยาธิตัวตืดบางชนิด)
  • การติดเชื้อแบคทีเรียจากการเกาตัว
  • ความเครียดและหงุดหงิด

สัญญาณที่บ่งบอกว่าน้องแมวมีหมัด!

  • เกาตัวบ่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณคอ หลัง และโคนหาง
  • มีรอยแดงหรือตุ่มนูนบนผิวหนัง
  • พบจุดดำๆ คล้ายผงกาแฟในขนหรือบนผิวหนัง (มูลหมัด)
  • ขนร่วงหรือผิวหนังอักเสบ
  • แมวดูหงุดหงิดหรือกระสับกระส่าย
  • พบตัวหมัดเมื่อแปรงขนหรือหวีด้วยหวีซี่ถี่

 

วิธีการป้องกันและกำจัดหมัดแมว

การป้องกันและกำจัดหมัดแมวเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของแมว การดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของแมวและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ วิธีการที่สามารถใช้ได้มีดังนี้ :

  1. การใช้ยาป้องกันหมัดแมว
    - ยาหยอดหลังคอ (Spot-on) : เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการป้องกันและกำจัดหมัดในแมว ยานี้สามารถฆ่าหมัดที่มีอยู่บนตัวแมวและป้องกันไม่ให้เกิดใหม่
    - ยากิน: ยากินสำหรับป้องกันหมัดสามารถใช้ควบคู่กับยาหยอดหลังคอได้ และช่วยป้องกันหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - สเปรย์: ใช้สเปรย์เพื่อกำจัดหมัดที่ตัวแมวและในสิ่งแวดล้อม
  2. การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
    การทำความสะอาดบ้านและที่นอนของแมวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการซักผ้าเบาะและผ้าห่มของแมวด้วยน้ำร้อน
    การใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อกำจัดหมัดและไข่หมัดในบ้าน
  3. การอาบน้ำและแปรงขนอย่างสม่ำเสมอ
    การอาบน้ำและแปรงขนแมวอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยในการตรวจหาและกำจัดหมัดที่มีอยู่บนตัวแมวในระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและทำให้ขนของน้องแมวสวยงาม
  4. การรักษาเมื่อพบหมัดแมว
    หากพบว่ามีหมัดบนตัวแมว ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

การป้องกันหมัดแมวในระยะยาว

การป้องกันหมัดแมวในระยะยาวควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยการใช้ยาป้องกันหมัดอย่างต่อเนื่อง และการรักษาความสะอาดในสิ่งแวดล้อมของแมว การตรวจสุขภาพแมวประจำปีและการปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการป้องกันและรักษาหมัดก็เป็นสิ่งที่ควรทำ

 

Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับหมัดแมว

Q: หมัดแมวสามารถอาศัยอยู่บนคนได้หรือไม่? 
A: หมัดแมวสามารถกัดคนได้ แต่ไม่สามารถอาศัยอยู่บนคนได้นาน เนื่องจากไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของหมัด อย่างไรก็ตาม การกัดของหมัดอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองผิวหนังในคนได้


Q: แมวที่เลี้ยงในบ้านจำเป็นต้องป้องกันหมัดหรือไม่? 

A: แม้ว่าแมวที่เลี้ยงในบ้านจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ก็ยังควรป้องกันหมัด เนื่องจากหมัดสามารถติดมากับคนหรือสัตว์อื่นที่เข้ามาในบ้านได้ การป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่าการรักษาเมื่อเกิดปัญหาแล้ว

 

Q: ควรใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดบ่อยแค่ไหน?
A: ความถี่ในการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปยาหยอดหลังมักใช้เดือนละครั้ง ส่วนยารับประทานอาจใช้ทุก 1-3 เดือน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์หรือคำแนะนำจากสัตวแพทย์


Q: สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดสำหรับสุนัขกับแมวได้หรือไม่?

A: ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดสำหรับสุนัขกับแมว เนื่องจากส่วนผสมบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อแมวได้ โดยเฉพาะสารเพอร์เมทริน (Permethrin) ที่พบในผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขบางชนิด ซึ่งเป็นพิษร้ายแรงต่อแมว

Q: หมัดแมวสามารถอยู่รอดในสิ่งแวดล้อมได้นานแค่ไหน?
A: หมัดตัวเต็มวัยสามารถอยู่รอดได้นานถึง 100 วันโดยไม่มีเจ้าบ้าน ส่วนไข่และตัวอ่อนสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายเดือน ดังนั้นการกำจัดหมัดจึงต้องทำอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทั้งตัวแมวและสิ่งแวดล้อม


Q: เลี้ยงแมวระบบปิดต้องกำจัดหมัดไหม?
A: แมวในระบบปิดยังเสี่ยงต่อการติดหมัดจากสิ่งของหรือเสื้อผ้าที่นำเข้าบ้าน จึงควรใช้วิธีป้องกันหมัดเป็นประจำ

 

Q: มีวิธีธรรมชาติในการป้องกันหมัดหรือไม่?

  • ใช้น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส (ต้องระวังในการใช้กับแมว)
  • โรยผงดิอะตอมเมเชียสเอิร์ธในบริเวณที่แมวชอบนอน
  • ปลูกพืชที่มีกลิ่นไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม อย่างไรก็ตาม วิธีธรรมชาติอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดที่ผ่านการรับรอง



บทสรุป

หมัดแมวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องเหมียวได้ การป้องกันและกำจัดหมัดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของแมวควรให้ความใส่ใจ นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดแล้ว การดูแลสุขอนามัยของแมวและสิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญในการควบคุมปัญหานี้

 

แหล่งอ้างอิง:

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หนึ่งในวิธีช่วยป้องกันหมัดในน้องแมวได้ก็คือ การอาบน้ำและแปรงขนแมวอย่างสม่ำเสมอ ที่ Maru Cat Grooming เรามีบริการอาบน้ำสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ ด้วยผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เกรดพรีเมี่ยม พร้อมทั้งบำรุงผิวและขนของน้องแมวให้สวยเงางาม ทาสแมวอย่างเราไร้กังวลปัญหาเรื่องนี้ได้เลย Maru Cat Grooming พร้อมให้บริการครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง
ห้ามใช้แชมพูของคนกับแมว เหตุผลสำคัญที่ทาสแมวต้องรู้!
การดูแลความสะอาดให้กับน้องแมวเป็นเรื่องที่เจ้าของหลายคนใส่ใจ แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามก็คือ การเลือกใช้แชมพูให้ถูกต้อง หลายคนอาจคิดว่าใช้แชมพูของคนได้ เพราะดูสะอาดดีและหอม แต่ความจริงแล้ว นี่คือสิ่งที่ ไม่ควรทำเด็ดขาด! เพราะอาจทำร้ายผิวหนังของแมวได้โดยไม่รู้ตัว
3 ก.ค. 2025
เคล็ด(ไม่)ลับดูแลน้องแมวหลัง Grooming ให้ขนนุ่มสุขภาพดี
หลังจากการ Grooming หรือการอาบน้ำแมวเสร็จเรียบร้อย การดูแลต่อเนื่องที่บ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้น้องแมวสบายตัว สุขภาพขนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาดูเคล็ดลับง่ายๆ ที่เจ้าของแมวควรรู้ไว้กันค่ะ
25 มิ.ย. 2025
หลังทำหมัน แมวอาบน้ำได้ไหม? คำตอบคือ....
หลังทำหมัน น้องแมวอาบน้ำได้ไหม? ได้! แต่ต้องดูแลให้ถูกวิธี มาอาบกับช่างผู้เชี่ยวชาญที่ Maru Cat Grooming สบายตัว ปลอดภัย หายห่วง
19 มิ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy