แชร์

รู้หรือไม่! ภาษากายแมว บ่งบอกอะไร

อัพเดทล่าสุด: 23 ก.ค. 2024

แมวเป็นสัตว์ที่มีวิธีการสื่อสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องหรือภาษากายที่หลากหลาย หากเราสามารถเข้าใจภาษากายของแมวได้  ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับภาษากายของแมวในแต่ละลักษณะ เพื่อให้ทาสแมวอย่างเราสามารถดูแลและเข้าใจพวกเขาได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น

 

สีหน้าและดวงตา
ดวงตาของแมวเป็นหน้าต่างบานสำคัญที่บอกถึงอารมณ์ของพวกเขา การสังเกตสีหน้าและดวงตาของแมวจะช่วยให้คุณเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

  1. ม่านตาขยาย: เมื่อแมวรู้สึกตื่นเต้น สนใจ หรือกลัว ม่านตาของพวกเขาจะขยายใหญ่ขึ้น 
  2. ตากลมโต: แสดงถึงความสนใจหรือความตื่นเต้น
  3. ตาหรี่: อาจบ่งบอกถึงความรู้สึกผ่อนคลายหรือง่วงนอน
  4. จ้องตาแน่วนิ่ง: อาจเป็นสัญญาณของการท้าทายหรือก้าวร้าว

 

การเคลื่อนไหวของหู
หูของแมวเป็นอีกส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึก:

  1. หูตั้งตรง: แสดงถึงความสนใจหรือความตื่นตัว
  2. หูแนบราบไปด้านหลัง: บ่งบอกถึงความกลัวหรือความโกรธ
  3. หูหมุนไปด้านข้าง: อาจแสดงถึงความไม่พอใจหรือความระแวง

 

การเคลื่อนไหวของหาง
การเคลื่อนไหวของหางแมวเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดในการสื่อสาร:

  1. หางตั้งตรง: เป็นสัญญาณว่าแมวรู้สึกมีความสุขและมั่นใจ
  2. หางตกและอยู่ใกล้พื้น: แสดงถึงความกลัวหรือไม่มั่นใจ
  3. หางที่ขยับไปมาเร็วๆ: บ่งบอกถึงความหงุดหงิดหรืออารมณ์เสีย
  4. หางฟู: เป็นสัญญาณของความตกใจหรือการเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันตัว

 

ท่าทางของร่างกาย
ท่าทางโดยรวมของร่างกายแมวสามารถบอกเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับสภาวะทางอารมณ์ของพวกเขา:

  1. นอนหงายเปิดท้อง: แสดงถึงความไว้วางใจและความรู้สึกปลอดภัย
  2. หลังโก่ง: เป็นสัญญาณของความกลัวหรือการป้องกันตัวเอง
  3. ย่อตัวต่ำ: อาจบ่งบอกถึงความกลัวหรือการเตรียมพร้อมที่จะโจมตี
  4. นั่งขดตัวเป็นก้อนกลม: แสดงถึงความสบายและผ่อนคลาย

 

การขยำเท้า
การขยำเท้าเป็นพฤติกรรมที่น่ารักและมีความหมายหลายอย่าง:

  1. ขยำเท้าบนตักของคุณ: แสดงถึงความรักและความผูกพัน
  2. ขยำเท้าบนผ้าห่มหรือเบาะนอน: อาจเป็นการเตรียมที่นอนหรือแสดงความพอใจ
  3. ขยำเท้าในอากาศ: บางครั้งเป็นสัญญาณของความสุขหรือความพึงพอใจ

 

การเลียและการกัดเบาๆ
แมวใช้ลิ้นและฟันในการสื่อสารด้วยเช่นกัน:

  1. เลียตัวเองบ่อยๆ: อาจเป็นสัญญาณของความเครียดหรือความวิตกกังวล
  2. เลียเจ้าของ: แสดงถึงความรักและการยอมรับว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
  3. กัดเบาๆ ขณะเล่น: เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นตามธรรมชาติ แต่ควรสอนให้แมวรู้จักขอบเขต

 

การนวดหรือการย่ำเท้า
เมื่อแมวย่ำเท้าบนตัวคุณหรือพื้นผิวนุ่มๆ นี่คือภาษากายที่มีความหมายพิเศษ:

  1. เป็นพฤติกรรมที่เหลือมาจากวัยทารก เมื่อลูกแมวย่ำเต้านมแม่เพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนม
  2. แสดงถึงความรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลาย และปลอดภัย
  3. บางครั้งอาจเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของหรือการทำเครื่องหมายด้วยกลิ่น

 

การใช้เสียง
แม้ว่าเราจะเน้นที่ภาษากาย แต่เสียงก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แมวใช้ในการสื่อสาร:

  1. เสียงร้องเบาๆ: เป็นการเรียกร้องความสนใจหรือความต้องการ
  2. เสียงร้องดังๆ: บ่งบอกถึงความต้องการที่เร่งด่วนหรือความไม่พอใจ
  3. เสียงขู่: เป็นสัญญาณของความกลัวหรือการเตือน
  4. เสียงกรน: แสดงถึงความพอใจและความผ่อนคลาย

 

การนอนในท่าต่างๆ
ท่านอนของแมวสามารถบอกเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับสภาวะทางอารมณ์และความรู้สึกของพวกเขา:

  1. นอนขดเป็นวงกลม: แสดงถึงความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
  2. นอนหงายเปิดท้อง: บ่งบอกถึงความไว้วางใจอย่างสูง
  3. นอนยืดตัวเต็มที่: มักพบในช่วงที่อากาศร้อน แสดงถึงความผ่อนคลายอย่างเต็มที่
  4. นอนซุกหน้า: อาจเป็นการพยายามบล็อกแสงหรือเสียงรบกวน

 

การทำเครื่องหมายด้วยกลิ่น
แม้จะไม่ใช่ภาษากายโดยตรง แต่การทำเครื่องหมายด้วยกลิ่นเป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญของแมว:

  1. ถูใบหน้ากับสิ่งของหรือคน: เป็นการทำเครื่องหมายด้วยกลิ่นและแสดงความเป็นเจ้าของ
  2. การข่วนเฟอร์นิเจอร์: นอกจากจะเป็นการลับเล็บแล้ว ยังเป็นการทิ้งกลิ่นไว้ด้วย
  3. การฉี่นอกกระบะทราย: อาจเป็นปัญหาสุขภาพหรือการแสดงความเครียด ควรปรึกษาสัตวแพทย์

 

การผสมผสานภาษากาย
แมวใช้ภาษากายหลายรูปแบบในการสื่อสารพร้อมกัน ดังนั้นการเข้าใจภาษากายของแมวต้องดูที่ภาพรวมทั้งหมด:

  1. การผสมผสานระหว่างการเคลื่อนไหวของหางและหู: หากหางตั้งตรงและหูตั้งตรงไปข้างหน้า นั่นแสดงว่าแมวรู้สึกมีความสุขและสนใจ
  2. การผสมผสานระหว่างตาและท่าทางร่างกาย: หากแมวตากว้างและนั่งหรือนอนอย่างผ่อนคลาย นั่นแสดงว่าแมวรู้สึกสบายใจและมั่นใจ

 

บทสรุป
การเข้าใจภาษากายของแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของแมวได้ดียิ่งขึ้น การสังเกตและทำความเข้าใจสัญญาณต่าง ๆ ที่แมวแสดงออกมาจะช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงกับแมวของเราได้

 

อ้างอิง:
[1] Bradshaw, J. (2018). Cat Sense: How the New Feline Science Can Make You a Better Friend to Your Pet. Basic Books.
[2] Turner, D. C., & Bateson, P. (Eds.). (2013). The Domestic Cat: The Biology of its Behaviour. Cambridge University Press.
[3] Halls, V. (2016). Cat Body Language: How to Read Your Cat's Body Language. Veloce Publishing Ltd.
[4] International Cat Care. (2023). Understanding Your Cat's Body Language. Retrieved from International Cat Care.


บทความที่เกี่ยวข้อง
ความแตกต่างของหวีที่ร้าน Maru เลือกใช้กับน้องแมว
หวีแมวมีหลายแบบ ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน! มาดูความแตกต่างของหวีแต่ละชนิด เลือกให้เหมาะกับขนน้องแมว เพื่อสุขภาพขนที่ดีและไม่พันกัน
11 เม.ย. 2025
เรียนอาบน้ำแมว
เรียนรู้วิธีจับ อาบ เป่าขนอย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและเจ้าของแมวที่อยากดูแลน้องเองหรือผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจร้านอาบน้ำแมว
7 เม.ย. 2025
การดูแลขนแมว เรียนรู้การอาบน้ำจากผู้เชี่ยวชาญ
การดูแลขนแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและความงามของน้องแมว การอาบน้ำอย่างถูกวิธีเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ขนของแมวสวยงามและสุขภาพดี Maru Cat Grooming เป็นร้านที่เชี่ยวชาญในการอาบน้ำและดูแลขนแมวโดยเฉพาะ พร้อมให้คำแนะนำและบริการสอนอาบน้ำแมวแบบพรีเมี่ยม สอนตัวต่อตัว สอนโดยเจ้าของร้าน Maru Cat Grooming
4 ก.พ. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy